การใช้งานอินเทอร์เน็ตบนคอมพิวเตอร์หรือการดาวน์โหลดโปรแกรมต่าง ๆ จากเว็บไซต์เพื่อมาติดตั้งบนคอมพิวเตอร์ของเรานั้น อาจไม่ปลอดภัยเสมอไป โดยเฉพาะกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่ปัจจุบันนั้นมีความก้าวหน้าเป็นอย่างมาก ในความก้าวหน้าของเทคโนโลยีนี้ก็มักจะมีมือดีที่หยิบฉวยหาช่องว่างในการแฝงไวรัสเข้ามายังคอมพิวเตอร์ของเรา ไม่ว่าจะเป็นทางเว็บไซต์ โฆณษาต่าง ๆ ที่หลอกให้เราคลิก หรือผ่านทางโปรแกรมแปลก ๆ ที่เราดาวน์โหลดมา หรือจะเป็นโปรแกรมที่ไม่ถูกต้องตามลิขสิทธิ์ ก็มันจะมีของแถมแฝงเข้ามาด้วย ทีมงาน Notebookspec จึงรวมเอาโปรแกรมสแกนไวรัสยอดนิยมที่ควรมีติดเครื่อง มาไว้ที่นี่แล้ว

ทำความรู้จักไวรัสคอมพิวเตอร์

ก่อนที่เราจะไปพบกับโปรแกรมสแกนไวรัสน่าใช้งานที่ต้องมีติดเครื่องไว้ ปี 2021 นั้น เรามาทำความรู้จักกับ ‘ไวรัสคอมพิวเตอร์’ ในเบื้องต้นกันก่อนดีกว่า สำหรับไวรัสคอมพิวเตอร์ (Computer Virus) คือโปรแกรมชนิดหนึ่งที่มีความสามารถในการสำเนาตัวเองให้เข้าไปติดอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ และหากมีโอกาส ไวรัสก็สามารถที่จะแทรกแซงเข้าไปติดอยู่ในคอมพิวเตอร์อื่น ๆ ได้ด้วย โดยอาจจะผ่านทาง แฟลชไดรฟ์ หรือแผ่นดิสก์ หรือไฟล์ที่เราดาวน์โหลดมาจากอินเทอร์เน็ต ซึ่งการที่คอมพิวเตอร์ติดไวรัส ก็หมายความว่าไวรัสนั้นได้แฝงตัวตัวอยู่ในความจำของเครื่องคอมพิวเตอร์เรียบร้อยแล้ว และมีการถูกเรียกใช้งาน ซึ่งผู้ใช้งานก็มักจะไม่รู้ตัวว่า ขณะที่กำลังเรียกใช้งานโปรแกรมหรือไฟล์ใด ๆ อยู่นั้น ก็ได้เรียกให้ไวรัสทำงานด้วย ทั้งนี้จุดประสงค์ของไวรัสแต่ละตัวนั้นก็ขึ้นอยู่กับผู้ที่เขียนโปรแกรมไวรัสนั้นขึ้นมา เช่น ไวรัสอาจจะเข้าไปทำลายโปรแกรมหรือข้อมูลอื่น ๆ ในเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือ แสดงข้อความขึ้นมารบกวนผู้ใช้งาน ขัดขวางการอ่านข้อมูล ขัดขวางการเข้าถึงข้อมูลในหน่วยความจำ เป็นต้น
สำหรัส ไวรัส (Virus) นั้น เป็นมัลแวร์ (Malware) ชนิดแรกที่เกิดขึ้นบนโลก และนอกจากนี้ยังมีมัลแวร์ชนิดอื่น ๆ ด้วย เช่น Worm, Trojan, Adware, Spyware ฯลฯ ไวรัสที่แพร่ระบาดและสร้างความเสียหายให้กับคอมพิวเตอร์ตามที่มีการบันทึกไว้ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2529 ด้วยผลงานของไวรัสที่มีชื่อ “เบรน(Brain)” ซึ่งเขียนขึ้นโดยโปรแกรมเมอร์สองพี่น้องชาวปากีสถาน ชื่อ อัมจาด (Amjad) และ เบซิท(Basit) เพื่อป้องกันการคัดลอกทำสำเนาโปรแกรมของพวกเขาโดยไม่จ่ายเงิน
ประเภทของไวรัสคอมพิวเตอร์
- Boot Sector Viruses หรือ Boot Infector Viruses เป็นไวรัสคอมพิวเตอร์ที่แพร่เข้าสู่เป้าหมายในระหว่างการบูตเครื่อง โดยส่วนมากจะติดต่อกันผ่านทาง Floppy disk โดยเมื่อนำแผ่นดิสก์นี้ไปใช้งานกับคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น ไวรัสก็จะเข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์ในตอนเริ่มทำงานทันที Boot Sector Viruses จะเข้าไปอยู่ในส่วนหัวสุดของฮาร์ดดิสก์ ที่ Master boot record ไวรัสประเภทนี้บางตัวก็ไม่มีอันตราย แต่บางตัวก็มีอันตรายมากถึงขั้นทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์บูตไม่ขึ้นเลยทีเดียว
- Program Viruses หรือ File Infector Viruses คือไวรัสคอมพิวเตอร์ที่จะติดอยู่กับไฟล์ข้อมูลที่ที่มีไฟล์นามสกุลเป็น .EXE .COM .DLL ฯลฯ โดยการทำงานของไวรัสตัวนี้ก็คือ จะไปติดอยู่บริเวณท้ายแฟ้มข้อมูล
- Trojan Horse เป็นโปรแกรมที่ถูกเขียนขึ้นมาให้เหมือนโปรแกรมธรรมดาทั่วไป เพื่อหลอกล่อให้ผู้ใช้งานเปิดโปรแกรมขึ้นมาทำงาน และเมื่อถูกเรียกขึ้นมาแล้ว ก็จะเริ่มทำลายตามโปรแกรมที่ถูกเรียกใช้งานทันที หลายครั้งที่ Trojan Horse จะถูกเขียนใหม่ทั้งชุดโดยมีการตั้งชื่อและคำอธิบายโปรแกรมให้ดูสมจริงเพื่อหลอกให้ผู้ใช้งานตายใจ จุดประสงค์ของไวรัสตัวนี้ คือ การเข้าไปทำอันตรายต่อข้อมูลที่มีอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ หรืออาจจะเป็นการล้วงเอาความลับของระบบคอมพิวเตอร์ เช่น ข้อมูลชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน เลขที่บัญชีธนาคาร หมายเลขบัตรเครดิต เป็นต้น Trojan Horse อาจไม่ถือเป็นไวรัส เพราะมักจะเป็นโปรแกรมที่เขียนขึ้นมาโดด ๆ ไม่มีการเข้าไปติดในโปรแกรมอื่นเพื่อสำเนาตัวเอง แต่มักจะใช้ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของผู้ใช้งานเป็นตัวแพร่ระบาดซอฟต์แวร์ โทรจันนับว่าเป็นโปรแกรมที่มีความอันตรายสูง เพราะมีความยากที่จะตรวจสอบและสร้างขึ้นมา
- Worm เป็นรูปแบบหนึ่งของไวรัส มีความสามารถในการทำลายระบบในเครื่องคอมพิวเตอร์สูงที่สุดในบรรดาไวรัสทั้งหมด สามารถกระจายตัวได้รวดเร็ว ผ่านทางระบบอินเทอร์เน็ต ซึ่งสาเหตุที่เรียกว่าหนอนนั้น คงจะเป็นลักษณะของการกระจายและทำลาย ที่คล้ายกับหนอนกินผลไม้ ที่สามารถกระจายตัวได้มากมาย รวดเร็ว และเมื่อยิ่งเพิ่มจำนวนมากขึ้น ระดับการทำลายล้างยิ่งเพิ่มมากขึ้นฃ
- Polymorphic Viruses เป็นชื่อที่ใช้ในการเรียกไวรัส ที่มีความสามารถในการแปรเปลี่ยนตัวเองได้เมื่อสร้างสำเนาตัวเองเกิดขึ้น ซึ่งอาจเกิดได้ถึงหลายร้อยรูปแบบ มีผลทำให้ไวรัสเหล่านี้ยากต่อการถูกตรวจจับโดยโปรแกรมตรวจหาไวรัสที่ใช้วิธีการสแกนอย่างเดียว ไวรัสใหม่ ๆ ในปัจจุบันที่มีความสามารถนี้เริ่มมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
- Stealth Viruses เป็นชื่อเรียกไวรัสที่มีความสามารถในการพรางตัวต่อการตรวจจับได้ เช่น ไฟล์ infector ไวรัสประเภทที่ไปติดโปรแกรมใดแล้วจะทำให้ขนาดของ โปรแกรมนั้นใหญ่ขึ้น ถ้าโปรแกรมไวรัสนั้นเป็นแบบสทีลต์ไวรัส จะไม่สามารถตรวจดูขนาดที่แท้จริงของโปรแกรมที่เพิ่มขึ้นได้ เนื่องจากตัวไวรัสจะเข้าไปควบคุมดอส เมื่อมีการใช้คำสั่ง DIR หรือโปรแกรมใดก็ตามเพื่อตรวจดูขนาดของโปรแกรม ดอสก็จะแสดงขนาดเหมือนเดิมทุกอย่างราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
โปรแกรมสแกนไวรัสยอดนิยม ที่ต้องมีติดเครื่อง
1. Windows Defender

เริ่มต้นกันด้วยโปรแกรมสแกนไวรัสที่มีติดมากับระบบ Windows อย่าง Windows Defender กันเลย
วินโดวส์ดีเฟนเดอร์ (Windows Defender) หรือชื่อเดิมที่เรียกว่า Microsoft AntiSpyware นั้นเป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์จากไมโครซอฟท์ ซึ่งออกแบบมาเพื่อป้องกัน กักกัน และลบสปายแวร์ทิ้ง เดิมให้บนไมโครซอฟท์ วินโดวส์เอกซ์พี วินโดวส์เซิร์ฟเวอร์ 2003 และ วินโดวส์วิสตา. Windows Defender สามารถดาวน์โหลดได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายบนเว็บไซต์ไมโครซอฟท์ นอกจากนั้นแล้วยังเป็นส่วนประกอบที่มาพร้อมกับวินโดวส์วิสตา เป็นต้นไป หลังจากนั้น Windows Defender ได้ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันไวรัสอีกด้วย โดยจะเอามาแทนที่ Microsoft Security Essentials ตั้งแต่ วินโดวส์ 8 ขึ้นไป
โปรแกรมนี้ใช้งานง่ายและได้รับการอัพเดตจากทาง Microsoft อยู่เสมอ ทำให้มั่นใจในประสิทธิภาพได้อย่างแน่นอน ตอบโจทย์อย่างมากโดยเฉพาะกับการที่มีฟีเจอร์พื้นฐานมาให้อย่างครบครัน แถมยังรองรับการป้องกัน Ransomware ด้วย แต่ถ้าใครที่ต้องการฟีเจอร์ที่มากขึ้น เช่น VPN, Password Manager นั้น ก็อาจจะต้องหาโปรแกรมอื่นเข้ามาเสริมในส่วนชองฟีเจอร์เหล่านี้แทน
2. AVG Antivirus

โปรแกรมสุดท้ายนี้อยู่ด้วยกันมาช้านาน ตอนเด็ก ๆ ผมก็เคยใช้โปรแกรมนี้เหมือนกัน ซึ่งใช้งานได้ค่อนข้างดีนะครับ ไม่หนักเครื่อง แถมยังมาพร้อมการป้องกันหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการสแกนไวรัสบน Windows และอุปกรณ์ต่อพ่วงต่าง ๆ ไปจนถึงการป้องกันบนเว็บเบราว์เซอร์และอีเมล ส่วนอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่เอาใจเหล่าเกมเมอร์ก็คือ Do Not Disturb mode ที่เป็นการสั่งปิด Notification ป้องกันการรบกวนในขณะเล่นเกมหรือดูหนังได้ด้วย
โปรแกรม AVG Free Antivirus สามารถทำคะแนนในการทดสอบได้ดี (98.9%) และใช้ทรัพยากรเครื่องในการทำงานต่ำ แม้ว่าจะมีฟีเจอร์ที่เราอาจจะไม่ได้ใช้อย่างเครื่องมือล้างไฟล์ขยะในระบบ และแอปแอนตี้ไวรัสสำหรับใช้บนสมาร์ทโฟนแถมมาด้วย แต่โดยรวมแล้วมันก็เป็นโปรแกรมแอนตี้ไวรัสที่น่าใช้งาน
สามารถเข้าไปดาวน์โหลดโปรแกรมได้ที่: AVG Free Antivirus
3. Avast

โปรแกรมสแกนไวรัสฟรี ๆ ที่หลายคนน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดี Avast Free Antivirus เป็นโปรแกรมฟรีที่ได้รับความนิยมพอสมควร ด้วยการป้องกันที่ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันภายใน Windows, การป้องกันในเบราว์เซอร์ (รองรับเฉพาะ Firefox และ Chrome) ไปจนถึงการจัดการ Password ทั้งนี้ เราอาจเจอปัญหาในการใช้งานเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้บ้าง ส่วนใหญ่จะเป็นข้อจำกัดในการเข้าถึงฟีเจอร์แบบเต็มรูปแบบ เนื่องจากต้องขยับไปใช้เวอร์ชันเสียเงิน แต่ถ้าใครนำมาใช้แค่ปกป้อง Windows ผมคิดว่าฟีเจอร์ที่มีมาให้ก็เพียงพอแล้วครับ
แม้ว่า Avast จะได้รับผลการทดสอบในการป้องกันต่ำกว่า 2 ตัวแรกที่เราหยิบมาแนะนำไปเล็กน้อย (98.9%) แต่มันก็ยังถือว่าเป็นคะแนนที่ค่อนข้างสูงมากอยู่ดี จุดแข็งหลักของ Avast คือการใช้ทรัพยากรเครื่องในการทำงานที่ต่ำมาก ทำให้เราใช้งานระบบคอมพิวเตอร์ได้เหมือนปกติ ไม่รู้สึกช้าลงแต่อย่างใดตัวโปรแกรมใช้งาน และติดตั้งง่าย ใครที่กำลังมองหาโปรแกรมแอนตี้ไวรัสฟรีมาใช้งาน โปรแกรมนี้ถือว่าน่าสนใจมากทีเดียว
สามารถเข้าไปดาวน์โหลดโปรแกรมได้ที่: Avast Free Antivirus
4. ESET NOD32

หนึ่งในแอนตี้ไวรัสขนาดเบาที่ดีที่สุด ESET ยังคงรักษาจุดเด่นในการทำงานได้อย่างรวดเร็ว ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน สามารถสแกนหาไวรัสได้ถึงลูกถึงคน ไม่ว่าจะซุกซ่อนอยู่ที่ใดภายในเครื่อง ตลอดจนมีกลไกสำคัญอย่าง Internet Security ที่ช่วยป้องกันการโจมตีของ Malware และ Ransomware ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดในราคาไม่แพง
ความพิเศษของโปรแกรมตัวนี้คือมีระบบการทำงานอันแสนรวดเร็ว ไม่มีความยุ่งยากใด ๆ เมื่อติดตั้งใช้งาน ซึ่งทีเด็ดจริง ๆ คือ การสแกนค้นหาไวรัสได้แบบลึกสุด ๆ จะซ่อนอยู่ตรงไหนก็ไม่ต้องห่วง หาเจอชนิดที่คนใช้เองอาจจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเคยเข้าเว็บอะไรไว้ มีระบบ Internet Security ที่ป้องกันไวรัสร้ายอย่างทรงพลัง มีทั้งทดลองใช้ฟรีและเสียเงินซึ่งราคาไม่แรงเลย
สามารถเข้าไปดาวน์โหลดโปรแกรมได้ที่: ESET NOD32 Antivirus
5. McAfee

โปรแกรมสแกนไวรัสที่ทรงพลานุภาพ สามารถใช้งานได้ทุกระบบปฏิบัติการ ไม่ว่าจะเป็น Window, MacOS, Android และ ios มีความโดดเด่นที่ศักยภาพในการต่อกรกับ Ransomware ที่อาจจะเข้ามาชิงข้อมูลสำคัญในเครื่องไปเรียกค่าไถ่ ตลอดจนมีกลไกช่วยเหลือการทำงานของคอมพิวเตอร์อย่าง PC Boost ติดมาด้วยเช่นกัน
โปรแกรมสแกนไวรัสที่ดีที่สุดตัวหนึ่ง ถือว่ามีประสิทธิภาพสูงมาก ไม่ว่าจะใช้ระบบปฏิบัติการไหนก็สามารถลงโปรแกรมนี้ได้ ความโดดเด่นคือ PC Boost เป็นตัวช่วยเหลือไม่ให้คอมพิวเตอร์ของคุณโดนเล่นงานจากบรรดาไวรัสแปลกปลอม แถมโปรแกรมตัวนี้ยังเคยหาญกล้าต่อสู้กับ Ransomware ที่จะดึงข้อมูลของคุณไปเรียกค่าไถ่มาแล้วด้วย แม้เป็น antivirus ที่ต้องเสียเงินแต่คุ้มเกินคุ้ม
สามารถเข้าไปดาวน์โหลดโปรแกรมได้ที่: McAfee Antivirus
6. Avira

แอนตี้ไวรัส Avira หรือที่หลายคนนิยมเรียกกันว่า โปรแกรมแอนตี้ไวรัสร่มแดง (Red Umbrella Antivirus) เป็นโปรแกรมแอนตี้ไวรัสยอดนิยม ตัวโปรแกรมใช้งานง่าย และมีหน้าตาที่สวยงาม จากผลการทดสอบล่าสุดของ AV-Comparatives ได้ระบุว่า Avira (เวอร์ชัน Pro) สามารถปกป้องได้ถึง 99.9% เลยทีเดียว ก็คาดหวังว่าเวอร์ชันฟรีก็น่าจะมีประสิทธิภาพที่ดีไม่แพ้กัน
โปรแกรมนี้มีระบบกำหนดเวลาสแกนล่วงหน้าที่ตั้งค่าได้อย่างง่ายดาย อย่างการตั้งให้สแกนอย่างรวดเร็วทุกวัน และสแกนแบบละเอียดอาทิตย์ละครั้งเป็นต้น เมื่อรวมกับความสามารถในการปกป้องแบบ Real-time มันก็น่าจะทำหน้าที่เฝ้าระวังภัยให้เครื่องคอมพิวเตอร์ได้เป็นอย่างดี แอนตี้ไวรัสฟรีที่อยากแนะนำให้ใช้งาน มีฟีเจอร์เสริมต่าง ๆ เพื่อให้การทำงานทรงประสิทธิภาพยิ่งขึ้น พร้อมตัวปรับแต่งตามใจต้องการ แม้ว่าฟีเจอร์พิเศษหลาย ๆ ตัวยังอาจอยู่ในช่วงทดลองใช้งาน แต่ถ้าหากไม่ใช่สายท่องเว็บอะไรอันตราย โปรแกรมสแกนไวรัสตัวนี้เอาอยู่แน่
สามารถเข้าไปดาวน์โหลดโปรแกรมได้ที่: Avira Free Antivirus
7. Bitdefender Antivirus

โปรแกรม Bitdefender Antivirus Free เป็นอีกหนึ่งโปรแกรมแอนตี้ไวรัสที่ในเวอร์ชันได้ผลทดสอบการป้องกันสูงถึง 99.9% สำหรับเวอร์ชันฟรีของโปรแกรม Bitdefender นั้นมีคุณสมบัติเด่นอย่างการตรวจจับมัลแวร์ และตรวจจับฟิชชิ่ง (ล่อหลอกลวงพราง) ในขณะที่หน้าตาโปรแกรมค่อนข้างเรียบง่าย ไม่มีตัวเลือกที่ดูยุ่มย่าม อีกทั้งยังออกแบบมาให้ใช้ทรัพยากรเครื่องในการทำงานต่ำอีกด้วย ทั้งยังเป็นโปรแกรมหนึ่งที่เว็บไซต์ PCMag ให้คะแนนดีพอ ๆ กับ Kaspersky (จากการทดสอบเทียบกับผลทดสอบจากเอกสารผู้ผลิต) คือ Bitdefender Antivirus Free Edition ด้วยหน้าจอที่ใช้งานง่ายมาก ไม่ค่อยหนักเครื่อง แถมสแกนได้อย่างรวดเร็ว พร้อมการปกป้องขั้นพื้นฐานที่ครบถ้วน ใช้งานง่ายมาก การป้องกันที่ดีเยี่ยมจากมัลแวร์ ใช้งานง่ายมาก ติดตั้งรวดเร็ว แทบจะไม่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของระบบ แถมยังมีตัวเลือกการปรับแต่ง Lack of quick scanning and scan scheduling ไม่มีการตั้งเวลาสแกนและสแกนเร็ว
สามารถเข้าไปดาวน์โหลดโปรแกรมได้ที่: Bitdefender Antivirus
8. Kaspersky Security Cloud Free

Kaspersky Security Cloud Free เป็นแอนตี้ไวรัสแบบฟรีที่ Kaspersky ปล่อยออกมาให้ใช้งานแทนโปรแกรมตัวเดิมอย่าง Kaspersky Free Antivirus รองรับการสแกน และลบมัลแวร์ต่างๆ ลูกเล่นไม่เยอะเท่าตัวเสียเงิน แต่จุดเด่นน่าจะอยู่ที่มีให้ใช้งานทั้งบนคอมพิวเตอร์ และสมาร์ทโฟนเลย
สามารถเข้าไปดาวน์โหลดโปรแกรมได้ที่: Kaspersky Security Cloud Free
9. Adaware Antivirus

โปรแกรม Adaware Antivirus เป็น โปรแกรมแอนตี้ไวรัสตัวนี้ในเวอร์ชันโปรทำคะแนนได้สูงถึง 99.3% ทำให้เราเชื่อมั่นได้ว่ามันจะคุ้มครองคอมพิวเตอร์ของเราได้เป็นอย่างดี แม้ว่าโปรแกรมนี้จะใช้ทรัพยากรเครื่องสูงกว่าโปรแกรมอื่น แต่ก็ถือว่าน่าใช้งานมากทีเดียวสำหรับผู้ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windowsในขณะที่เวอร์ชันเสียเงินของโปรแกรมนี้จะเพิ่มการป้องกันให้กับเว็บไซต์, อีเมล และมีไฟร์วอลให้ใช้งานด้วย ซึ่งจ่ายเพิ่มก็ไม่แพงเท่าไร
สามารถเข้าไปดาวน์โหลดโปรแกรมได้ที่: Adaware Antivirus
10. Malwarebytes Anti-Malware

โปรแกรมแอนตี้ไวรัส จากค่าย Malwarebytes นั้นมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับมานานแล้ว และสำหรับ โปรแกรม Malwarebytes Anti-malware จากค่ายนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง มันมีความสามารถในการตรวจจับ Adware ที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ข้อดีอีกอย่างของโปรแกรมนี้มีขนาดไฟล์ที่เล็กมาก แถมยังสแกนได้อย่างว่องไวอีกด้วย อย่างไรก็ตาม เวอร์ชันฟรีคุณจะต้องสั่งสแกนด้วยตนเองเท่านั้น ถ้าอยากให้มันป้องกันแบบสด ๆ เดี๋ยวนั้น หรือที่เรียกว่าเรียลไทม์ (Real-time) ล่ะก็ต้องจ่ายเงินอัพเกรดเท่านั้น
สามารถเข้าไปดาวน์โหลดโปรแกรมได้ที่: Malwarebytes Anti-Malware
สรุป
และทั้งหมดนี้ก็คือ 10 โปรแกรมสแกนไวรัสยอดนิยม 2021 ที่น่าใช้งานและควรมีไว้ติดเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา ซึ่งแต่ละโปรแกรมก็ได้รับการยอมรับและมียอดดาวน์โหลด ยอดผู้ใช้งานที่สูงมาก ๆ และสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตามใครที่ไม่อยากเสียเงินเพิ่ม หรือไม่ได้มีความจำเป็นที่จะต้องแสกนไวรัสอย่างหนักจริง ๆ ทีมงานขอออกความเห็นว่า Windows Defender ที่ติดมากับตัว Windows 10 นั้นก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ใครที่ต้องหาข้อมูล เข้าเว็บไซต์ หรือโหลดโปรแกรมที่มีความเสี่ยง ควรสำรองข้อมูลสำคัญ ๆ ไว้ในฮาร์ดดิสหรือ External แยกออกมาอย่างสม่ำเสมอ หรือเพื่อความชัวร์ก็ให้อัพโหลดเข้าระบบ Cloud Online ไปเลย เพื่อให้แน่ใจว่าไฟล์งานของเรา หรือเอกสารสำคัญ ๆ จะไม่สูญหาย
อ่านบทความเพิ่มเติม/บทความที่เกี่ยวข้อง
from:https://notebookspec.com/web/574163-hits-antivirus-you-must-have