Ring เปิดตัวกริ่งประตูอัจฉริยะ Ring Video Doorbell Pro 2 เป็นอุปกรณ์เรือธงในไลน์ โดยรอบนี้มาพร้อมฟีเจอร์ตรวจจับวัตถุที่แม่นยำกว่าเดิม และกล้องมุมกว้างที่เห็นจนถึงพื้น
สเปคของกริ่งประตูใหม่จาก Ring จะมาพร้อมกล้องวิดีโอ HD 1536p พร้อมเลนส์ฟิชอายที่สามารถเห็นได้จนถึงพื้น เหมาะกับการส่องดูพัสดุที่มาส่งบ้าน โดยตัวกล้องมีมุมมองกว้างถึง 150 องศาทั้งสองทิศทาง พร้อมไมโครโฟนเพิ่มเติมที่จะช่วยลดเสียงเพี้ยนและได้ยินเสียงชัดขึ้นเมื่อพูดกับแขกที่มาเยือนที่บ้าน
ฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจของ Video Doorbell Pro 2 คือระบบเรดาร์ที่สแกนไกลสุด 30 ฟุต ทำให้เพิ่มระบบตรวจจับการเคลื่อนไหวสองอย่าง คือ 3D Motion Detection ที่ตรวจจับการเคลื่อนไหวได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น ลดโอกาสตรวจจับและบันทึกการเคลื่อนไหวที่ไม่เกี่ยวข้อง เช่น นกบิน หรือคนเดินผ่านทางเท้านอกบ้าน และ Bird’s Eye View ที่จะคอยติดตามการเคลื่อนไหวของคนในสนามหน้าบ้านได้แบบเรียลไทม์ว่ามีใครเข้ามาในโซนหน้าบ้านหรือไม่และเดินไปทางใดบ้าง
ตอนนี้ Ring Video Doorbell Pro 2 ยังมีเฉพาะรุ่นมีสายเท่านั้น ตัวกริ่งประตูยังคงมีขนาดและหน้าตาคล้ายกับรุ่นแรก วางจำหน่ายที่ราคา 250 ดอลลาร์หรือราว 7,500 บาท
ชาว iOS ทั้งหลายเคยสังเกตเห็นแอพที่เป็นรูปบ้านสีเหลืองที่ชื่อ “Home” หรือ “บ้าน” กันบ้างไหม รู้กันไหมว่าแอพพลิเคชั่นที่ว่านี้มีหน้าที่อะไร และอะไรคือระบบ Homekit จาก Apple ที่เราคุ้นหูกันมานานแสนนาน วันนี้ APPDISQUS จะพาเพื่อนๆ มาทำความรู้จักกับระบบบ้านอัจฉริยะของ Apple ที่จะทำให้บ้านธรรมดาๆ ของเรากลายเป็นบ้านที่ตอบสนองความต้องการเราได้อย่างชาญฉลาดด้วยความช่วยเหลือจาก AI อย่าง Siri
หากใครกำลังมีความคิดอยากเริ่มต้นกับบ้านสมาร์ทโฮมสักหลังด้วยงบประมาณที่ไม่บานปลาย ติดตามรายการ Smart Home Guideที่จะออนแอร์ทุกสัปดาห์เอาไว้ได้เลย รับรองว่าได้บ้านสมาร์ทอย่างฝันในราคาที่ไม่ทำให้กระเป๋าแบนแฟนทิ้งอย่างแน่นอน ส่วนใครที่ยังไม่ได้รับชมรายการใหม่จากเรา ก็สามารถรับชมได้จากวิดีโอด้านล่างนี้ กับ Smart Home Guide EP1 : เริ่มต้นกับ Homekit และระบบ Smart Home ของ Apple สำหรับคนที่ฟังไม่ทัน หรืออยากเน้นอ่านเป็นบทความก็ตามอ่านกันได้ต่อในบทความนี้ได้เลย
Homekit ถือเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มสำคัญสำหรับคนที่กำลังมองวิธีการทำบ้านให้กลายเป็นบ้านอัจฉริยะ โดย Homekit นั้นเป็นแพลตฟอร์มสมาร์ทโฮมจากทางฝั่ง Apple ซึ่งจะใช้ Siri ในการเป็นตัวกลางการสั่งงานด้วยเสียงและช่วยรับและประมวลผลคำสั่งต่างๆ ไปยังอุปกรณ์ที่รองรับ Homekit หรืออยู่ในแอพพลิเคชั่น “Home” หรือ “บ้าน” บน iOS, iPadOS และ macOS ของเรา ซึ่งก็เหมือนกับ Google Assistant และระบบ Home ของ Google และ Amazon Alexa และระบบบ้านอัจฉริยะของ Amazon นั่นเอง
และเนื่องจากระบบอินเตอร์เน็ตของประเทศไทยเราตอนนี้น่าจะเรียกได้ว่าเป็นเบอร์ต้นๆ ของโลก เราจึงถือว่ามีความพร้อมในการพัฒนาระบบสมาร์ทโฮมได้ไม่ต่างจากประเทศชั้นนำทั้งหลาย และหลายๆ คนเองก็มีการใช้ระบบ Home Automation หรือ Smart Home นี้ในบ้านเช่นเดียวกัน วันนี้ APPDISQUSจึงจะพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักกับ Homekit กันให้มากขึ้นกว่าเดิม
Homekit และแอพพลิเคชั่น Home คืออะไร?
Homekit คือแพลตฟอร์มบ้านอัจริยะของ Apple โดยออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุมอุปกรณ์อัจฉริยะภายในบ้านที่มีตั้งแต่ตัวควบคุมอุณหภูมิภายในบ้าน (Thermostats) ไปจนถึงปลั๊กไฟและหลอดไฟอัจฉริยะ หรือจะเป็นม่านหน้าต่างและประตูบ้านยันโรงรถเองก็สามารถควบคุมผ่าน Homekit ได้เช่นเดียวกันหากขึ้นชื่อว่าเป็นอุปกรณ์อัจฉริยะ
โดย Apple นั้นยังมีแอพพลิเคชั่น Home ที่เขียนขึ้นมาเพื่อรองรับเฟรมเวิร์ค Homekit ของตนเองอีก เช่นเดียวกับแอพพลิเคชั่นจากนักพัฒนาอิสระมากมายที่ก็ใช้ประโยชน์จากเฟรมเวิร์ค Homekit เช่นเดียวกัน อาทิ แอพพลิเคชั่น Eve Home และ Home+ ที่ก็ถือว่าเป็นแอพพลิเคชั่นเด่นที่คนเล่นสมาร์ทโฮมบนแพลตฟอร์ม Homekit นิยมกัน
แอพพลิเคชั่น Home ที่เราเห็นบน iPhone, iPad และ Mac ของเรานั้นเปรียบได้กับหน้าต่างควบคุมบ้านอัจฉริยะของเรานั่นเอง โดยแอพพลิเคชั่น Home นั้นจะทำหน้าที่เป็นศูนย์รวมของอุปกรณ์ Homekit Compatible ที่เราเชื่อมต่อไว้บน Homekit Framework ของระบบอีโค่ซิสเต็มจาก Apple ทำให้เราสามารถควบคุมอุปกรณ์จากหลากหลายแบรนด์ได้ในแอพพลิเคชั่นเดียว แต่หากต้องการควบคุมอุปกรณ์เหล่านี้จากระยะไกล เราต้องเชื่อมต่อ Homekit Hub ภายในบ้านของเราก่อนเพื่อให้เจ้า Homekit Hub ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อเราเข้ากับอุปกรณ์อัจฉริยะบน Homekit ของเราอีกทีเวลาที่เราไม่ได้เชื่อมต่อสัญญาณอินเตอร์เน็ตเดียวกันกับบรรดาอุปกรณ์อัจฉริยะภายในบ้าน
Ring เปิดตัว Video Doorbell Wired กริ่งประตูอัจฉริยะแบบมีสายเน้นขายในราคาไม่แพงและขนาดเล็กกว่ารุ่นอื่น ๆ โดยยังคงมาพร้อมฟีเจอร์พื้นฐานค่อนข้างครบถ้วน
สำหรับสเปคของ Ring Video Doorbell Wired คือมีกล้อง 1080p มุมกว้าง, ระบบเสียงสองทิศทาง, night vision, กำหนดจุดตรวจจับการเคลื่อนไหว และรองรับฟีเจอร์อื่น ๆ ที่มากับผลิตภัณฑ์ Ring ทั่วไปอย่างฟีเจอร์เสียเงิน Ring Protect เป็นต้น รวมถึงใช้งานร่วมกับ Amazon Echo ได้ด้วย
จุดที่ Ring Video Doorbell Wired แตกต่างจากรุ่นอื่นที่ทำให้ราคาถูกและขนาดเล็กลงคือตัวเครื่องไม่มีแบตเตอรี่เนื่องจากใช้ระบบไฟจากสายไฟตามชื่อ ทำให้ราคาเริ่มต้นเหลือเพียง 59.99 ดอลลาร์เท่านั้น ถูกกว่ารุ่นถัดไปราว 40 ดอลลาร์
Ambi Climate Mini นั้นยังมาพร้อมเซ็นเซอร์ตรวจวัดอุณหภูมิและความชื้นสัมพัทธ์เพื่อตอบโจทย์การใช้งานควบคุมอุณหภูมิภายในบ้านเหมือนรุ่นอื่นๆ พร้อมกับภาคส่งสัญญาณ IR และการเชื่อมต่อด้วย WiFi โดยสิ่งที่ถูกตัดออกไปบนเจ้า Ambi Climate Mini นั้นคือพอร์ตเชื่อมต่อ USB ที่แต่เดิมมีอยู่ในรุ่น Ambi Climate 2 แต่ก็ไม่เคยได้ใช้งานหรอก ซึ่งก็ไม่ได้ถือว่าการตัดออกไปนั้นจะเป็นเรื่องสำคัญอะไร
อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ดูเหมือนจะหายไปจาก Ambi Climate Mini จริงๆ นั้นคือ Comfort AI Assistant หรือเอไอช่วยเหลือเรียนรู้อุณหภูมิที่เหมาะสมกับเราแบบอัตโนมัติ โดยจะเรียกว่าหายไปเลยก็ไม่เชิง เพราะเจ้า Ambi Climate Mini นั้นยังคงใช้งานฟังก์ชั่นนี้ได้อยู่ แต่จะต้องเสียเงินสมัครใช้งานเป็นรายเดือน เดือนละ $2.99 หรือประมาณ 90 บาท และสามารถยกเลิกได้ทุกเมื่อที่ต้องการ ในขณะที่ Ambi Climate 2 นั้นสามารถใช้งานฟังก์ชั่น Comfort AI Assistant ได้ฟรีตลอดกาล ในราคาที่สูงกว่าตัวนี้ 1,500 บาท (ก็ตีง่ายๆ ว่าเป็นราคาที่ต้องจ่ายหากใช้ Ambi Climate Mini และฟังก์ชั่น Comfort AI Assistant เป็นระยะเวลาประมาณ 1 ปีครึ่งนั่นเอง)
อย่างไรก็ตาม Ambi Labs เองก็ยังใจดีมอบสิทธิ์ใช้งาน Comfort AI Assistant ให้กับผู้ซื้อ Ambi Climate Mini ทุกคนฟรีเป็นระยะเวลา 2 เดือนเพื่อประกอบการตัดสินใจว่าไลฟ์สไตล์ของเรานั้นจะคุ้มค่ากับการสมัครใช้ Comfort AI Assistant หรือไม่ ซึ่งก็ถือว่าตอบโจทย์และเปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานหน้าใหม่ได้ทดสอบระบบอัจฉริยะนี้ก่อนเสียเงินจริง
โดยในกรณีของอเล็กซ์นั้นใช้แอร์เก่าประมาณ 8 ปีที่จำชื่อรุ่นไม่ได้แล้วของ Mitsubishi Electricโดยเมื่อพลิกด้านหลังรีโมตนั้นระบุ Type Name ไว้เป็น “MH12A 212DL”
อีกตัวคือ Mi 360 Home Security Camera 2K Pro กล้องวงจรปิดความละเอียด 3 ล้านพิกเซล สามารถแสดงผลได้สูงสุด 2304×1296 รูรับแสง f/1.4 ไมโครโฟนคู่ มีอัลกอริทึมตรวจจับเงาของคนและแจ้งให้ผู้ใช้งานทราบ สามารถสั่งกล้องได้ผ่าน Mi Home และควบคุมด้วยเสียงผ่าน Google Assistant และ Amazon Alexa
Mi 360 Home Security Camera 2K Pro ขายวันที่ 25 มกราคมนี้ ราคา 1,590 บาทบน JD Central, Shopee, Lazada และร้านตัวแทนจำหน่าย
เมื่อปีที่แล้ว GE หรือ General Electric กลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมของโลก เพิ่งขายส่วนธุรกิจ GE Lighting ซึ่งเป็นส่วนธุรกิจแรกของบริษัทที่ดำเนินกิจการมานานกว่า 100 ปีให้บริษัทสมาร์ทโฮม Savant
วันนี้เจ้าของใหม่ของ GE Lighting ก็ได้ประกาศรีแบรนด์สินค้าในกลุ่ม C by GE อย่างเป็นทางการ โดยเปลี่ยนไปใช้ชื่อว่า Cync และขยายธุรกิจสินค้าออกไปไกลกว่าการเป็นเพียงหลอดไฟ ให้เป็นแบรนด์สินค้าสมาร์ทโฮมแบบครบวงจร พร้อมกับเปิดตัวสินค้าใหม่ในไลน์ Cync เพิ่มเติมด้วย ส่วนแอป C by GE จะเปลี่ยนเป็นชื่อ Cync ในเดือนมีนาคมนี้