ตั้งแต่เริ่มต้นทำสมาร์ทโฟนมา เชื่อว่า หลายคนคงคุ้นหูกับชื่อ Optimus ซึ่งแอลจีใช้ชื่อนี้ในการทำตลาดมาโดยตลอด แต่จากข่าวล่าสุด ที่มีการเปิดเผยออกมาว่า แอลจีจะดรอปชื่อนี้ทิ้ง ทำให้มีความเป็นไปได้ว่า Optimus G Pro นี้อาจเป็นรุ่นสุดท้ายที่แอลจีจะใช้ชื่อ Optimus ในตลาดสมาร์ทโฟน

โดยส่วนตัวแล้ว ผมไม่ค่อยติดใจว่าจะใช้ชื่อใดในการทำตลาด ขอแค่ผลิตภัณฑ์ที่ออกมามันดีและน่าใช้ก็เพียงพอแล้ว ซึ่งจากการที่ได้ทดลองใช้งานรุ่นนี้มาเป็นระยะเวลาหนึ่ง และได้เขียนออกมาในรูปแบบเชิงพรีวิวไปบ้างแล้ว คราวนี้จะขออธิบายเพิ่มเติมจากส่วนที่ยังไม่ได้พูดถึง

จะว่าไปแล้วหลายคนอาจสงสัยว่า ทำไมผมถึงแบ่งรีวิวแยก Part ออกมา คือ ในความตั้งใจของผมในรีวิว Optimus G Pro ใน Part 2 นั้น จะเป็นในเชิงเปรียบเทียบและวิเคราะห์นิดหน่อย ขอให้รอติดตามอ่านกันนะครับ

สำหรับผู้อ่านที่ยังไม่ได้อ่านพรีวิวของ Optimus G Pro ก่อนหน้านี้ ขอเชิญได้ที่ [Sneak Peak] เห็นมาอย่างไรเขียนไปตามนั้นกับ Optimus G Pro

เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา ขอเริ่มต้นบรรเลงรีวิว Optimus G Pro กันเลยดีกว่า

สเปกเครื่อง

• ขนาดหน้าจอ 5.5 นิ้ว Full HD IPS
• หน่วยความจำภายในมี 2 ขนาด 16/32GB ซึ่งรุ่นทดสอบเป็น 16GB, RAM 2GB
• กล้องหลัง 13  ล้านพิกเซล
• กล้องหน้า 2.1 ล้านพิกเซล
• แอนดรอยด์ 4.1.2
• ชิปประมวลผลควอลคอมม์ snapdragon 600 ควอดคอร์ 1.7GHz
• แบตเตอรี 3140 mAh

พูดถึงการดีไซน์

ในบทความพรีวิวก่อนหน้านี้ ผมได้พูดถึงไปแล้วนิดหน่อยว่า Optimus G Pro มีรูปลักษณ์ที่ไม่ต่างไปจากฝั่งซัมซุงสักเท่าไหร่ Look ‘n’ Feel ก็ต้องบอกว่า ไม่ใช่ก็ใกล้เคียง ลักษณะที่เป็นโค้งมน ขนาดจอ รวมถึงด้านหลังที่ดีไซน์มาในแบบที่เปิดฝาหลัง ถอดแบตเตอรี

สิ่งที่แอลจีด้อยกว่าในแง่ของการดีไซน์ นั่นคือ บริเวณตรงปุ่ม Home ถ้าใครที่เคยได้ลองสัมผัสปุ่ม Home ของซัมซุง ทั้ง Galaxy Note 2 และ Galaxy S4 จะรู้สึกชัดเจนเลยว่า การสัมผัสนั้นเต็มไม้เต็มมือกว่า แต่ของแอลจีด้วยขนาดที่เล็ก และบางจึงทำให้การสัมผัสทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร เว้นเสียแต่ว่าปุ่ม Home ของแอลจีนั้น จะมาพร้อมกับ LED Notification ก็เป็นลูกเล่นขำๆ ที่พอใช้ได้อันหนึ่ง

แต่จุดหนึ่งชอบ คือ การมีปุ่ม QuickButton ขึ้นมา ซึ่งปุ่มนี้จะอยู่เหนือปุ่ม Rocker อีกทีหนึ่ง ปุ่มนี้จะมีค่า Default เป็น Qiuck Memo แต่ถ้าเราจะปรับให้เป็นอย่างอื่นก็ได้ เช่น กล้อง

ถึงแม้การดีไซน์จะเหมือนฝั่งคู่แข่งชาติเดียวกัน แต่ Optimus G Pro ทำให้ผมชอบก็คงมีแค่ปุ่ม Home LED กับ ปุ่ม QuickButton

จอใหญ่ใช้งานยากไหม ?

ในพารากราฟแรก ผมให้คุณผู้อ่านได้เห็นสเปกเครื่องจำเพาะของ Optimus G Pro ไปแล้ว สิ่งที่่น่าจะทำให้คนดูสะดุดตาที่สุดก็คงหนีไม่พ้น ‘ขนาดหน้าจอ’

บอกตามตรงเลยครับว่า ขนาดหน้าจอ 5.5 นิ้ว ถือว่าใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นไซส์ซิ่งของผู้ชายหรือผู้หญิงตาม

โอเคจริงอยู่ว่า ขนาดหน้าจอ 5.5 นิ้ว คุณผู้ชายหลายคน รวมถึงผมเอง จะไม่อิหนังขังขอบอะไรมาก เพราะอย่างน้อยๆ ก็สามารถใช้งานได้ด้วยมือเดียวดีในระดับหนึ่ง แต่ปัญหาคือ เมื่อ ใช้งานมือเดียวการเทน้ำหนักของตัวเครื่อง จะอยู่ที่มือมากเกินไป ดังนั้นความล้าเตรียมมาเยี่ยมมาเยียนอย่างแน่นอน

ส่วนคุณผู้หญิง ทางแอลจีเคลมว่า Optimus G Pro เป็นสมาร์ทโฟนที่มีขนาด 5.5 นิ้ว ที่ผู้หญิงสามารถใช้งานมือเดียวได้ จากการใช้งานแล้วพบว่า ก็พอถูไถ แต่ก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่ง่ายดายอยู่ดี

ดังนั้นทำให้ผมเชื่ออย่างหนึ่งว่า ใครที่ใช้ Optimus G Pro ก็คงเลือกที่จะใช้ 2 มืออยู่ดี

การถ่ายภาพ

ก่อนอื่นขออกตัวก่อนเลยว่า ผมไม่ได้รีวิวสมาร์ทโฟนฝั่งแอลจีมาพักหนึ่งแล้ว (ส่วนใหญ่จะยืมเขาเล่น 2-3 วัน) ผมเองไม่ค่อยปลื้มนักกับภาพถ่ายที่ผ่านจากเครื่องแอลจี แต่พอได้ลองรุ่นนี้ โดยภาพรวมถือว่า ทำได้ดีมากขึ้น โหมดต่างๆ มีให้มาค่อนข้างเยอะและหลากหลาย สามารถตั้งชอร์ทคัทสำหรับการถ่ายภาพได้

จากที่ฟังตอนที่ผมไปรับเครื่อง Optimus G Pro ทางแอลจีได้มีการพูดถึงฟีเจอร์อย่าง Dual Camera ซึ่งฟีเจอร์นี้มีมาก่อนแล้วใน Galaxy S4

ข้อแตกต่างระหว่างแอลจีกับซัมซุงในฟีเจอร์นี้ คือ ซัมซุง สามารถเปลี่ยนกรอบได้ แต่แอลจีทำเช่นนั้นไม่ได้ แต่ขณะเดียวกันของแอลจีจะสามารถสลับให้กล้องหน้ากับกล้องหลังเป็นพื้นหลัง หรือเป็นภาพในกรอบเล็กๆ ได้

ส่วนความสามารถด้านการถ่ายภาพอื่นๆ ก็จะมี Intelligent Mode สำหรับการปรับอัตโนมัติว่า วัตถุที่เรากำลังถ่ายอยู่นั้นควรเป็น Macro หรือซีนภาพแบบไหน, Time Catch Shot ที่เคยพูดถึงไว้ก่อนหน้านี้, Cheese Shutter คำสั่งเสียงในการถ่ายเช่น กิมจิ อะไรก็ว่าไป เป็นต้น

ด้านล่างนี้เป็นภาพจากกล้องที่ถ่ายด้วย Optimus G Pro

 

อันนี้ผมซูมที่สุดของกล้องกับนักเตะเชลซีครับ

ฟีเจอร์ที่ LG นำเสนอ

จะว่าไปแล้ว ช่วงหลังแอลจีก็ถือว่าเป็นเจ้าพ่อฟีเจอร์เหมือนกันนะครับ ใน Optimus G Pro ก็ถือว่า มีเยอะมิใช่เล่น แต่ด้วยไลฟ์สไตล์ผมบางฟีเจอร์ก็แทบไม่ได้ใช้งานเลย แต่เพื่อคุณผู้อ่านแล้ว เต็มใจนำเสนอครับ

Quick Memo ฟีเจอร์นี้มีมานาน ตั้งแต่ Optimus Vu (จำกันได้ไหมครับ ?) ความสามารถของมันก็คือ การจดโน้ต จะเขียนบนหน้าจอก็ได้ หรือจะจดในหน้าไหนๆ ก็ได้ของตัวเครื่อง ถ้าให้ว่ากันตามตรงแล้ว มันใช้ยาก จะจดอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันค่อนข้างลำบาก อีกทั้งตัวเครื่องก็ไม่ได้มีปากกาหรือสไตลัสมาให้ การใช้นิ้วเขียนหรือวาดอะไร ส่วนตัวแล้วมันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก

เช่นเดียวกันกับแอปพลิเคชัน Notebook เพียงแต่ว่า อันนี้ดีกว่าหน่อยนึงที่สามารถสะกดคำจากการเขียนได้

Remote ฟีเจอร์นี้สำหรับที่บ้านใครมีดีไวส์อัจฉริยะเยอะๆ ทั้งบลูเรย์ ทีวี 3 มิติ Set top Box โปรเจ็คเตอร์หรือแอร์ก็สามารถใช้งานผ่าน Optimus G Pro ได้

QuickSlide สามารถใช้งาน 2 หน้าจอพร้อมกันได้ แต่ทว่ายังอิมพอร์ทแอปเข้ามาไม่ได้

Dio Dick and Quick Translator ส่วนนี้เป็นโหมดของการแปลภาษา ซึ่งจะต้องเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต ในความเห็นส่วนตัวถ้าเป็น Words จะแปลค่อนข้างแม่นกว่า Line ตอนนั้นผมได้เอาปกหลังของ DVD มา Translate แล้ว ผลลัพธ์ที่ได้คือ ช้าและแปลผิดคำที่ต้องการ

นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Smart Screen and Smart VDO

ดูหนัง-ฟังเพลง เป็นอย่างไร ?

ในหัวข้อนี้ผมไม่ได้เทสต์ครับ ไม่ใช่ว่าผมขี้เกียจหรืออะไรหรอกนะครับ แต่ถ้าใครที่อ่านพรีวิวของผมในหัวข้อ Optimus G Pro ก็คงทราบว่า เครื่องที่ผมได้มารีวิวนั้น ไม่สมประกอบ ตัวเครื่องไม่มีเสียง ไม่สามารถฟังเพลง หรือดูหนังได้

ตรงนั้นผมมีคลิปวิดีโอตัวอย่างด้วย

อย่างที่ผมบอกไว้ในคลิป ผมเข้าใจว่าลำโพงของตัวเครื่องเสีย ทำให้ไม่สามารถได้ยินเสียงใดๆ เลย……เหมือนสมาร์ทโฟนหูหนวกเลยเนอะ

ส่วนการที่ผมสัมผัสหน้าจอไม่ได้ ก็นั่นแหละ เป็นเพราะว่าจอสัมผัสตรงนั้น มีปัญหาพอดี

รีวิว Optimus G Pro มาเกือบครบแล้ว ขอปิดท้ายด้วยการทดสอบความสามารถผ่านแอปพลิเคชัน Benchmark ต่างๆ ผลก็เป็นไปตามนี้ครับ

I Like.

• ด้านกล้องมีการพัฒนาที่ดีขึ้น
• หน้าจอคม สวย
• เป็นตัวที่ท็อปที่เสถียรที่สุดรุ่นหนึ่ง

I Dislike.

• การดีไซน์ดูซ้ำและคล้ายกับคู่แข่งเกินไป
• ขนาดหน้าจอใหญ่ไปสักหน่อย ใช้งานไม่ง่ายนัก

เหมาะกับใครบ้าง

ถึงช่วงสุดท้ายของการรีวิว Optimus G Pro กันแล้ว จากที่ร่ายยาวผ่านงานเขียนมาทั้งหมด ก็คงต้องบอกว่า รุ่นนี้แอลจีหวังจับตลาดลูกค้าในระดับบนอยู่แล้ว ซึ่งช่วงของการวางจำหน่ายจะว่าไปแล้ว ก็ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะอยู่ไม่น้อย เนื่องจากเวลานี้ในท้องตลาดรุ่นไฮเอนด์เปิดตัวออกไปหมดแล้วทั้ง Galaxy S4, Xperia Z, HTC One จึงทำให้ Optimus G Pro ดูใหม่ที่สุด แถมไฮเอนด์ปลายปีอย่าง Note 3 ก็ยังไม่ถึงคิว

เมื่อได้ลองใช้ Optimus G Pro ก็คงต้องบอกว่า ดีที่สุดของแอลจีเท่าที่เคยได้ลองเล่นมาแล้ว การใช้งานค่อนข้างเสถียร สเปกเครื่องแรงอยู่แล้ว เพียงแต่ในแง่ของฟีเจอร์ถ้าให้ว่ากันตามตรงแล้ว ก็ไม่ถึงกับต้องร้องว้าวสักเท่าไหร่ อีกทั้งรูปลักษณ์การดีไซน์เครื่องก็ไม่โดดเด่นอีกต่างหาก

อย่างไรก็ตามถ้าเป็นแฟนแอลจีหรือใครที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่ Optimus G Pro ก็เป็นทางเลือกที่ดีในระดับหนึ่ง สำหรับใครที่กำลังมองหาไฮเอนด์ ราคาที่ไม่สูงไปกว่าคู่แข่ง

from:http://mobiledista.com/review-lg-optimus-g-pro/