MUJI ร่วมมือกับ Honda เปิดตัวจักรยานไฟฟ้า วิ่งไกลสุด 65 […] More
from:https://www.iphonemod.net/muji_honda_ms01_electric_bike.html
MUJI ร่วมมือกับ Honda เปิดตัวจักรยานไฟฟ้า วิ่งไกลสุด 65 […] More
from:https://www.iphonemod.net/muji_honda_ms01_electric_bike.html
ข่าวลือ Apple Watch รุ่นขาลุย “Extreme SportsR […] More
from:https://www.iphonemod.net/apple-watch-extreme-sports-version.html
Xiaomi เพิ่งเปิดตัวมือถือ Xiaomi 12S Series ไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ซึ่งมือถือรุ่นท็อปอย่าง Xiaomi 12s Ultra ถูกจับตามองอย่างมากเพราะเป็นการร่วมมือกันครั้งแรกระหว่าง Xiaomi และ LEICA แถมยังเป็นมือถือรุ่นแรกที่ได้ใช้เซ็นเซอร์กล้อง IMX989 ขนาดใหญ่เบิ้มถึง 1 นิ้วด้วย ซึ่งล่าสุดได้มีการชำแหละเครื่องมือถือรุ่นดังกล่าวให้ได้เห็นกันแบบชัด ๆ ไปเลยว่ากล้องของ Xiaomi 12s Ultra มีอะไรซ่อนเอาไว้บ้าง
WekiHome ซึ่งเป็นช่องนึงใน YouTube ที่มักจะนำเอามือถือ แทบเล็ต หรือโน้ตบุ๊ครุ่นต่าง ๆ มาชำแหละเครื่องในให้ดูกัน และได้นำเอา Xiaomi 12S Ultra มาชำแหละให้ทุกคนได้ดูกันว่าชิ้นส่วนข้างในมันเป็นยังไงบ้าง รวมถึงส่วนสำคัญอย่างกล้องหลังที่ไปจับมือกันพัฒนากับ LEICA และใช้เซนเซอร์กล้อง IMX989 ว่ามันมีขนาดใหญ่แค่ไหน เมื่อเทียบกับเซนเซอร์กล้องของมือถือรุ่นอื่น
เมื่อถอดฝาหลังออกมาแล้วจะเห็นได้ว่าพื้นที่บริเวณด้านบนของเครื่องเกินครึ่ง ถูกอัดกันแน่นไปด้วยกล้องทั้ง 3 ตัว คือกล้อง Telephoto เลนส์ Periscope (กล้องสี่เหลี่ยมด้านล่าง), กล้อง Ultra-Wide 48MP (กล้องด้านขวา) และกล้องหลักที่มีขนาดใหญ่สุด (ด้านซ้าย) ส่วนที่เหลือคือพื้นที่สำหรับวางเมนบอร์ดและอื่น ๆ ไม่มากนัก เพราะพื้นที่ด้านล่างส่วนใหญ่ก็ต้องเอาไว้ใส่แบตเตอรี่ขนาด 4,860 mAh เหมือนกัน
วิธีการแก้ปัญหานี้คือการเอา PCB หรือแผ่นวงจรมาซ้อนกันสองชั้น เพื่อให้พื้นที่พอสำหรับการวางชิ้นส่วนทั้งหมด ส่วน RAM กับ ROM แผ่นระบายความร้อน แผ่นทองแดง และระบบระบายความร้อนด้วยไอน้ำ (Vapor Chamber) จะอยู่ทางด้านล่าง
คราวนี้กลับมาดูที่โมดูลกล้องหลักกันบ้าง จะเห็นว่าทั้งตัวโมดูลนับไปจนถึงตัวเลนส์กล้องหลักมันมีความหนาถึง 11.06 มม. เนื่องจากชิ้นเลนส์ต้องมีขนาดใหญ่มากจนสามารถครอบเซ็นเซอร์ IMX989 ได้ทั้งหมด แถมยังเป็นเลนส์แบบ 8 ชิ้นซะด้วย ก็เลยทำให้หนาขึ้นไปอีก
ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าเซ็นเซอร์กล้องขนาด 1 นิ้วเนี่ย จริง ๆ ตัวเซนเซอร์มันไม่ได้มีความยาวแนวทแยงเท่ากับ 1 นิ้วเป๊ะ ๆ นะครับ แต่มันจะนับรวมไปถึงส่วนประกอบอื่น ๆ ด้วย และเมื่อนำเอาเซนเซอร์ IMX989 ไปเปรียบเทียบกับเซนเซอร์รุ่นอื่นแล้วจะเห็นความแตกต่างของขนาดได้ชัดเลย
ภาพเทียบระหว่างเซนเซอร์ Samsung GNV ขนาด 1/1.28 นิ้ว กับ Sony IMX989 ขนาด 1 นิ้ว
แค่นี้ก็น่าจะเห็นกันแล้วว่า Xiaomi 12s Ultra เป็นมือถือที่เน้นเรื่องกล้องแบบสุด ๆ ไปเลย เพราะจากการแงะส่วนประกอบเครื่องทั้งหมดออกมาแบบนี้แล้ว ก็เห็นกันแบบเต็ม ๆ ว่าแค่โมดูลกล้องก็กินพื้นที่ตัวเครื่องไปเกือบจะครึ่งนึงเลยทีเดียวครับ
ที่มา : gsmarena
from:https://droidsans.com/disassembly-video-reveals-size-of-xiaomi-12s-ultras-camera/
Xiaomi เพิ่งเปิดตัวมือถือ Xiaomi 12S Series ไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ซึ่งมือถือรุ่นท็อปอย่าง Xiaomi 12s Ultra ถูกจับตามองอย่างมากเพราะเป็นการร่วมมือกันครั้งแรกระหว่าง Xiaomi และ LEICA แถมยังเป็นมือถือรุ่นแรกที่ได้ใช้เซ็นเซอร์กล้อง IMX989 ขนาดใหญ่เบิ้มถึง 1 นิ้วด้วย ซึ่งล่าสุดได้มีการชำแหละเครื่องมือถือรุ่นดังกล่าวให้ได้เห็นกันแบบชัด ๆ ไปเลยว่ากล้องของ Xiaomi 12s Ultra มีอะไรซ่อนเอาไว้บ้าง
WekiHome ซึ่งเป็นช่องนึงใน YouTube ที่มักจะนำเอามือถือ แทบเล็ต หรือโน้ตบุ๊ครุ่นต่าง ๆ มาชำแหละเครื่องในให้ดูกัน และได้นำเอา Xiaomi 12S Ultra มาชำแหละให้ทุกคนได้ดูกันว่าชิ้นส่วนข้างในมันเป็นยังไงบ้าง รวมถึงส่วนสำคัญอย่างกล้องหลังที่ไปจับมือกันพัฒนากับ LEICA และใช้เซนเซอร์กล้อง IMX989 ว่ามันมีขนาดใหญ่แค่ไหน เมื่อเทียบกับเซนเซอร์กล้องของมือถือรุ่นอื่น
เมื่อถอดฝาหลังออกมาแล้วจะเห็นได้ว่าพื้นที่บริเวณด้านบนของเครื่องเกินครึ่ง ถูกอัดกันแน่นไปด้วยกล้องทั้ง 3 ตัว คือกล้อง Telephoto เลนส์ Periscope (กล้องสี่เหลี่ยมด้านล่าง), กล้อง Ultra-Wide 48MP (กล้องด้านขวา) และกล้องหลักที่มีขนาดใหญ่สุด (ด้านซ้าย) ส่วนที่เหลือคือพื้นที่สำหรับวางเมนบอร์ดและอื่น ๆ ไม่มากนัก เพราะพื้นที่ด้านล่างส่วนใหญ่ก็ต้องเอาไว้ใส่แบตเตอรี่ขนาด 4,860 mAh เหมือนกัน
วิธีการแก้ปัญหานี้คือการเอา PCB หรือแผ่นวงจรมาซ้อนกันสองชั้น เพื่อให้พื้นที่พอสำหรับการวางชิ้นส่วนทั้งหมด ส่วน RAM กับ ROM แผ่นระบายความร้อน แผ่นทองแดง และระบบระบายความร้อนด้วยไอน้ำ (Vapor Chamber) จะอยู่ทางด้านล่าง
คราวนี้กลับมาดูที่โมดูลกล้องหลักกันบ้าง จะเห็นว่าทั้งตัวโมดูลนับไปจนถึงตัวเลนส์กล้องหลักมันมีความหนาถึง 11.06 มม. เนื่องจากชิ้นเลนส์ต้องมีขนาดใหญ่มากจนสามารถครอบเซ็นเซอร์ IMX989 ได้ทั้งหมด แถมยังเป็นเลนส์แบบ 8 ชิ้นซะด้วย ก็เลยทำให้หนาขึ้นไปอีก
ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าเซ็นเซอร์กล้องขนาด 1 นิ้วเนี่ย จริง ๆ ตัวเซนเซอร์มันไม่ได้มีความยาวแนวทแยงเท่ากับ 1 นิ้วเป๊ะ ๆ นะครับ แต่มันจะนับรวมไปถึงส่วนประกอบอื่น ๆ ด้วย และเมื่อนำเอาเซนเซอร์ IMX989 ไปเปรียบเทียบกับเซนเซอร์รุ่นอื่นแล้วจะเห็นความแตกต่างของขนาดได้ชัดเลย
ภาพเทียบระหว่างเซนเซอร์ Samsung GNV ขนาด 1/1.28 นิ้ว กับ Sony IMX989 ขนาด 1 นิ้ว
แค่นี้ก็น่าจะเห็นกันแล้วว่า Xiaomi 12s Ultra เป็นมือถือที่เน้นเรื่องกล้องแบบสุด ๆ ไปเลย เพราะจากการแงะส่วนประกอบเครื่องทั้งหมดออกมาแบบนี้แล้ว ก็เห็นกันแบบเต็ม ๆ ว่าแค่โมดูลกล้องก็กินพื้นที่ตัวเครื่องไปเกือบจะครึ่งนึงเลยทีเดียวครับ
ที่มา : gsmarena
ท่าจะหนักขึ้นเรื่อย ๆ แล้วสำหรับแอป TikTok ที่ก่อนหน้านี้โดนแฉว่าส่งข้อมูลของผู้ใช้งานกลับไปที่จีน จนทางกรรมาธิการ FCC ก็เขียนจดหมายถึงทั้ง Google และ Apple ให้ถอดแอป TikTok ออกจากสโตร์ของตัวเอง แถมล่าสุดทางวุฒิสมาชิกสหรัฐฯ ยังได้เรียกร้องให้ FTC หรือคณะกรรมาธิการการค้าแห่งสหพันธรัฐ เข้าตรวจสอบ TikTok ด้านการดำเนินการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลเพิ่มเติม
วุฒิสมาชิกสหรัฐฯได้เขียนจดหมายเรียกร้องให้ Lina Khan ประธานการค้าแห่งสหพันธรัฐ หรือ FTC (Federal Trade Commission) ดำเนินการเกี่ยวกับ TikTok โดยในจดหมายกล่าวว่า “TikTok ได้ปิดบังความจริงเกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัยของข้อมูล การประมวลผลข้อมูล และการกำกับดูแลกิจการมาหลายครั้งแล้ว เราจึงขอแนะนำให้ FTC ดำเนินการในเรื่องนี้ทันที”
การเรียกร้องในครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางกระแสข่าวว่า TikTok ส่งข้อมูลของผู้ใช้งานชาวอเมริกันกลับไปที่จีน ซึ่ง Brendan Carr กรรมาธิการ FCC หรือ กสทช. ของสหรัฐฯ ก็ออกมาเรียกร้องให้ Google และ Apple นำแอป TikTok ออกจากสโตร์ของตัวเองภายในวันที่ 8 กรกฎาคมนี้ และบอกว่าถ้าไม่นำออกก็ให้แจ้งเหตุผลมาด้วย
แต่หลังจากนั้นไม่กี่วัน Shou Zi Chew ซีอีโอของ TikTok ก็ออกมาชี้แจงว่า เจ้าหน้าที่ในจีนสามารถเข้าถึงข้อมูลของสหรัฐฯได้จริง แต่ก็ต้องผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยหลายขั้นตอนจากทางสหรัฐฯ ก่อน และทางรัฐบาลจีนก็ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลเหล่านั้นได้ด้วย และยังอธิบายต่อว่า TikTok กำลังจะนำข้อมูลบนเซิฟเวอร์มาเก็บบนคลาวน์ของ Oracle ซึ่งเป็นเซิร์ฟเวอร์ในสหรัฐอเมริกาเร็ว ๆ นี้
และในงานแถลงข่าวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา Mark Warner วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ กล่าวว่า “เป็นเวลาหลายปีแล้วที่ TikTok ยืนยันกับฝ่ายนิติบัญญัติว่าข้อมูลของผู้ใช้งานแอป TikTok และการดำเนินการทั้งหมดถูกปกป้องอย่างดีจากจีน” และยังเสริมต่อว่า “คงเป็นเรื่องน่ากังวลอย่างมากถ้าแอปที่เกี่ยวข้องกับการติดต่อสื่อสารเจ้าใหญ่จะต้องตกไปอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลเผด็จการ”
ดูเหมือนเรื่องนี้น่าจะยังไม่ได้ข้อสรุปกันง่าย ๆ ว่า TikTok จะถูกแบนอีกครั้งหรือเปล่า หลังจากที่เคยถูกแบนไปแล้วรอบหนึ่งในสมัยที่ Donald Trump เป็นประธานาธิปดี และถูกปลดแบนในสมัยของ Joe Biden นี่เอง และหากว่ามีความคืบหน้ายังไง เราจะรีบนำมาเสนอให้ทุกคนกันเรื่อย ๆ แน่นอนครับ
ที่มา : theverge
Robinhood เตรียมเข้าสู่การเป็น Super App หรือแอปที่ให้บริการแบบครบวงจร และเตรียมเปิดตัวบริการใหม่อย่าง Robinhood Mart หรือบริการซื้อสินค้าจากร้านค้าซุปเปอร์มาร์เก็ตต่าง ๆ ในเดือนสิงหาคมนี้ พร้อมทั้งเปิดให้ร้านค่าต่าง ๆ สามารถซื้อโฆษณาบนหน้าแอปได้แล้ว
ในงานแถลงข่าว Super App Rise and Thrive ทาง Robinhood เปิดเผยออกมาว่าจะมีการขยายการให้บริการทั้ง Robinhood Mart ในช่วงเดือนสิงหาคมนี้ ซึ่งก็คือบริการซื้อสินค้าจากร้านค้าซุปเปอร์มาร์เก็ตต่าง ๆ บริการ Robinhood Express หรือบริการส่งของในช่วงไตรมาสที่ 3 และบริการ Ride Hailing หรือบริการเรียกรถรับ – ส่งในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ด้วย
นอกจากนี้ยังเล็งที่จะให้แอป Robinhood เป็นแอปแบบ All-in-one Travel Service หรือการให้บริการแบบครบวงจร ตั้งแต่บริการจองโรงแรมซึ่งเปิดตัวไปแล้วเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และเล็งจะขยายการให้บริการทัวร์กับบริการเช่ารถในช่วงไตรมาสที่ 3 และบริการจองเที่ยวบินในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ด้วย
ทั้งนี้ทาง Robinhood ก็ยังเปิดให้ผู้ประกอบการหรือเจ้าของธุรกิจสามารถซื้อโฆษณาผ่านตัวแทนเอเจนซี่ทั้ง 3 บริษัทอย่าง Group M, Dentsu และ Entravision ได้ ซึ่งตัวโฆษณาเหล่านี้จะอยู่ในรูปแบบของแบนเนอร์ที่แทรกอยู่ในหน้าแอป นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะให้ซื้อโฆษณาในรูปแบบของการ Search หาร้านค้าอีกด้วย
เอาเป็นว่าหากใครกำลังใช้บริการต่าง ๆ เหล่านี้อยู่ ทาง Robinhood ก็อยากจะบอกว่าแอปฯ Robinhood ก็เตรียมจะให้บริการอยู่เหมือนกันนะ และหากใครสนใจก็สามารถติดตามข่าวสารและโปรโมชันต่าง ๆ จากทาง Robinhood ได้เลยครับ
from:https://droidsans.com/robinhood-new-service-will-launch-in-august/
ภายในบทความนี้ ทีมงาน TechTalkThai จึงขอหยิบยกนำประเด็นที่น่าสนใจจากงานสัมมนาครั้งนี้มาสรุปให้ทุกท่านได้อ่านกันดังนี้ครับ
ส่วนในแง่ของการนำมาตรฐานเหล่านี้ไปใช้งาน จากการศึกษาของ 650 Group เมื่อปี 2021 ที่ผ่านมา ก็พบว่าในอดีตก่อนหน้าปี 2020 มาตรฐานหลักยังคงเป็นความเร็วในช่วง 10 – 40 Gbps แต่ในช่วงปี 2020-2022 นี้ มาตรฐานความเร็ว 100Gbps ก็ได้กลายเป็นมาตรฐานหลักที่ธุรกิจองค์กรใช้งานกันแทน ส่วนในอนาคตหลังจากปี 2022 เป็นต้นไป ถึงแม้การใช้งานมาตรฐาน 100Gbps จะยังคงมีอยู่ แต่ความเร็วที่ระดับ 25Gbps, 400Gbps และ 800Gbps ขึ้นไปจะเติบโตมากยิ่งขึ้นอย่างชัดเจน
นอกเหนือจากประเด็นด้านความเร็วของระบบเครือข่ายแล้ว ประเด็นด้านการใช้พลังงานเองก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะที่ผ่านมาอัตราส่วนการใช้พลังงานของระบบเครือข่ายภายใน Data Center นั้นนับเป็น 30% ของการใช้พลังงานทั้งหมดเลยทีเดียว แต่จุดที่น่าสนใจก็สัดส่วนระหว่างความเร็วที่ได้กับพลังงานที่ใช้นั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้นเรื่อยๆ โดยหากนับจากช่วงปี 2010 ที่เรายังใช้ความเร็ว 1Gbps บน Switch ที่ชิปประสิทธิภาพ 640Gbps เทียบกับในปี 2022 ที่ความเร็วเพิ่มมาเป็นระดับ 100 – 400Gbps บน Switch ที่ประสิทธิภาพ 51.2Tbps แล้ว จะเห็นได้ว่าที่ความเร็วเพิ่มขึ้นในระดับ 80 เท่า ปริมาณการใช้พลังงานกลับเพิ่มขึ้นเพียงราวๆ 22 เท่าเท่านั้น ดังนั้นการเลือกลงทุนในเทคโนโลยีระบบเครือข่ายด้วยความเร็วที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งที่จะช่วยเสริมความคุ้มค่าในการใช้พลังงานได้เป็นอย่างดี
เพื่อให้การวางแผนออกแบบ ไปจนถึงการติดตั้งใช้งานและการบริหารจัดการระบบ Cabling เพื่อรองรับอนาคตในอีก 10 ปีหลังจากนี้มีความยืดหยุ่นและง่ายดาย ทาง CommScope จึงมี Component ที่หลากหลายในโซลูชัน Propel ให้เลือกใช้งาน ดังนี้
พบกับรายการใหม่ SoftDe’Talk by VSM365 | Softde’but ที่จะมาพูดคุยเกี่ยวกับเทรนด์ด้าน IT อัปเดตความรู้กับสินค้าซอฟต์แวร์, ระบบอีเมล, ระบบ Cloud รวมไปถึงสินค้า Hardware (ฮาร์ดแวร์) และ Gadget ต่าง ๆ ที่น่าสนใจ กับ คุณนุ่น วรินทร์ธาร จรัสสิริกุลชัย (Assistant Vice President – Softde’ but ) และคุณโรจน์ วิโรจน์ วัชรวิวรรณ (Sale Supervisor – Softde’ but) ทุกวันศุกร์ ตั้งแต่ 10.00 – 12.00 น. เริ่มศุกร์ที่ 8 กรกฎาคมเป็นต้นไป ผ่านช่องทาง Live Facebook และ YouTube VSM365
ผู้ดำเนินรายการ
การบรรยายภาค : ภาษาไทย (Thai Speaker)
เข้าร่วมรับชม Live SoftDe’Talk ผ่านช่องทาง
Facebook VSM365 – MIS Solution Software Shop
YouTube VSM365 – VSM365 – Software Online Shop
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Line OA : @vsm365
from:https://www.techtalkthai.com/live-softdetalk-ep-1-2022-07-08/
เป็นธรรมดาของวงการเกมยุคนี้ ที่ออกแพ็กเกจกล่องเกมแบบ Special Edition หรือ Collector’s Edition สำหรับแฟนๆ ที่เพิ่มของสะสมอย่างพวกสมุดภาพ ฟิกเกอร์ หรือไอเทมพิเศษบางอย่างมาขายในราคาที่แพงขึ้น
กรณีของเกม God of War Ragnarök ที่เพิ่งประกาศวันวางขาย 9 พ.ย. 2022 ก็ไม่ต่างกัน มีแพ็กเกจพิเศษ 2 แบบคือชุดกลาง Collector’s Edition กับชุดใหญ่ Jötnar Edition ที่มีของที่ระลึกมากมาย มีกล่องเกมลายพิเศษ (steelbook) แต่ก็พิเศษจริงๆ ตรงที่ไม่มีแผ่นดิสก์ตัวเกมมาให้ด้วย ต้องเอาโค้ดไปดาวน์โหลดแบบดิจิทัลแทน (กรณีของ Jötnar Edition ยิ่งน่าสนใจตรงที่มีแผ่นเสียงไวนีลบันทึกเพลงในเกม แต่ไม่มีแผ่นดิสก์ตัวเกม)
ถึงแม้เหตุผลที่ผู้ผลิตไม่แถมแผ่นเกมมาให้เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ เพราะผู้ซื้อแพ็กเกจเหล่านี้ซื้อมาเก็บสะสมจริงๆ แล้วไปเล่นเกมผ่านช่องทางดิจิทัลกันอยู่แล้ว แต่การไม่มีตัวเกมที่เป็นสินค้าหลักให้มาในชุด ก็อาจยังทำให้หลายคนรู้สึกแปลกๆ อยู่ดี
Kotaku ชี้ว่า God of War Ragnarök ไม่ใช่เกมแรกที่ใช้แนวทางนี้ เพราะเกม Horizon Forbidden ที่ออกเมื่อต้นปีก็เคยทำมาก่อน ส่วนค่าย Ubisoft ก็เคยออกแพ็กเกจเกม Far Cry 6, Assassin’s Creed Valhalla, Watch Dogs: Legion (บน Xbox) ที่ไม่มีแผ่นเกมมาแล้ว แต่จำกัดเฉพาะในสหราชอาณาจักรเท่านั้น
ที่มา – PlayStation Blog, Kotaku
AIS สานพลัง ตำรวจไซเบอร์ เข้าจับกุมมิจฉาชีพ ทลายแก๊งคอล […] More
from:https://www.iphonemod.net/ais-cyber-police-catch-criminals-call-center-gangs.html